หลังจบเกม อีกอร์ ทูดอร์ เทรนเนอร์ของยูเวนตุส ได้ออกมาให้สัมภาษณ์ต่อหน้าสื่อ พร้อมกล่าวอย่างชัดเจนว่า “ผมไม่ได้ยินเสียงโห่จากแฟนๆ หลังจบเกมเลย” ซึ่งประโยคดังกล่าวกลายเป็นประเด็นร้อนในวงการฟุตบอลอิตาลีทันที เพราะในภาพถ่ายทอดสดบางช่วงมีเสียงแฟนบอลตะโกนและแสดงความไม่พอใจต่อผลงานของทีมในสนามอย่างเห็นได้ชัด
คำพูดของทูดอร์จึงถูกตีความออกไปในหลายทิศทาง บางคนมองว่าเขาอาจพยายามหลีกเลี่ยงความขัดแย้งระหว่างตัวเองกับแฟนบอล ในขณะที่อีกฝ่ายมองว่ามันคือความเชื่อมั่นของโค้ชที่ต้องการปกป้องลูกทีมจากแรงกดดันที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ท่ามกลางกระแสข่าวลือเรื่องความไม่พอใจของแฟนบอลต่อรูปแบบการเล่นที่เน้นเกมรับมากเกินไปในช่วงหลัง
อีกอร์ ทูดอร์ ให้เหตุผลเพิ่มเติมว่า “ผมโฟกัสอยู่กับนักเตะในสนามและสิ่งที่เกิดขึ้นตรงหน้า ผมไม่ได้ใส่ใจเสียงรอบข้างเท่าไรนัก เพราะสิ่งที่สำคัญกว่าคือการทำให้ทีมมีสมาธิ เราต้องการสามแต้ม แต่ผมคิดว่าผู้เล่นทุกคนทำดีที่สุดแล้วในสถานการณ์ที่ยากลำบากแบบนี้”
สำหรับเกมนี้ ยูเวนตุสเปิดบ้านรับการมาเยือนของเอซี มิลานด้วยความตั้งใจจะเก็บชัยชนะเพื่อทำคะแนนไล่จี้จ่าฝูงนาโปลี แต่รูปเกมกลับออกมาอึดอัดกว่าที่คาด ทั้งสองทีมเน้นความรัดกุมและระวังหลังเป็นพิเศษ ทำให้จังหวะลุ้นประตูมีน้อย ฝั่งยูเวนตุสมีโอกาสใกล้เคียงจากลูกยิงของ ดูซาน วลาโฮวิช และ เฟเดริโก้ เคียซ่า แต่ไม่สามารถเปลี่ยนเป็นสกอร์ได้ ขณะที่มิลานเองก็มีจังหวะหวาดเสียวจากลูกยิงของ ราฟาเอล เลเอา แต่ถูกเซฟไว้ได้โดย วอยเซียค เชสนี่
ตลอดทั้งเกม ยูเวนตุสดูจะขาดความคิดสร้างสรรค์ในเกมรุก แม้ว่าจะพยายามครองบอลมากกว่าในบางช่วง แต่การเจาะแนวรับของมิลานที่มีวินัยสูงยังคงเป็นปัญหาใหญ่ ซึ่งเป็นสิ่งที่แฟนบอล “เบียงโคเนรี่” หลายคนเริ่มรู้สึกกังวล เพราะรูปแบบการเล่นที่เน้นตั้งรับและสวนกลับเร็วอาจไม่เพียงพอสำหรับการลุ้นแชมป์ในฤดูกาลนี้
หลังเสียงนกหวีดสุดท้ายดังขึ้น แฟนบอลบางส่วนส่งเสียงโห่เบาๆ จากอัฒจันทร์ฝั่งเหนือ แต่เสียงนั้นไม่ดังไปทั่วสนาม และอาจเป็นเหตุผลที่ทำให้ทูดอร์กล่าวว่าเขา “ไม่ได้ยิน” อย่างไรก็ตาม นักข่าวสายฟุตบอลอิตาลีหลายรายที่อยู่ในสนามรายงานตรงกันว่า มีเสียงแสดงความไม่พอใจจริง โดยเฉพาะจากแฟนบอลกลุ่มอัลตร้าที่ต้องการเห็นทีมเล่นฟุตบอลที่ดุดันและกล้าเสี่ยงมากกว่านี้
ทูดอร์อธิบายเพิ่มเติมว่า “ผมเข้าใจดีว่าแฟนบอลต้องการชัยชนะและการเล่นที่สนุก แต่เรากำลังอยู่ในช่วงสร้างความมั่นคงใหม่ หลังจากผ่านช่วงเวลาที่ยากลำบาก เราไม่สามารถเร่งทุกอย่างได้ภายในคืนเดียว ผมพอใจกับความมุ่งมั่นของนักเตะและความพยายามในสนาม เกมนี้ไม่ง่ายเลยเพราะมิลานเป็นทีมที่แข็งแกร่งและมีระบบที่ดีมาก”
ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ยูเวนตุสต้องเผชิญกับความเปลี่ยนแปลงมากมาย ทั้งในด้านผู้บริหาร โค้ช และผู้เล่นตัวหลัก การเปลี่ยนผ่านหลังยุคของมัสซิมิเลียโน่ อัลเลกรี ทำให้ทีมต้องปรับตัวเข้าสู่แนวทางใหม่ที่เน้นความสมดุลและการสร้างทีมระยะยาว ทูดอร์ซึ่งเคยเป็นผู้ช่วยของอัลเลกรีมาก่อน จึงรู้ดีว่าความคาดหวังของแฟนบอลยูเวนตุสสูงเพียงใด “พวกเขาเคยชินกับการชนะตลอดเวลา แต่เราต้องยอมรับว่าฟุตบอลทุกยุคไม่เหมือนกัน การสร้างทีมใหม่ต้องใช้เวลาและความอดทน” เขากล่าว
ในเชิงแท็กติก เกมนี้ทูดอร์เลือกใช้ระบบ 3-5-2 โดยมีแดนกลางที่เน้นการคุมเกมมากกว่าการบุกเต็มรูปแบบ เขาสั่งให้วิงแบ็กทั้งสองฝั่งระวังจังหวะสวนกลับของมิลาน ทำให้เกมของยูเวนตุสขาดความดุดันในพื้นที่สุดท้าย อย่างไรก็ตาม การจัดการแนวรับของทีมถือว่ายังทำได้ดี เพราะสามารถป้องกันไม่ให้ทีมเยือนมีโอกาสยิงตรงกรอบมากนัก
นักวิเคราะห์จาก La Gazzetta dello Sport แสดงความคิดเห็นว่า “ยูเวนตุสภายใต้ทูดอร์ดูมีระเบียบและเล่นอย่างมีวินัย แต่พวกเขายังขาดแรงกระตุ้นในการปิดเกมให้ได้ การขาดผู้เล่นสร้างสรรค์ในแดนกลางทำให้เกมรุกดูนิ่งเกินไป” ซึ่งเป็นข้อสังเกตที่แฟนบอลส่วนใหญ่เห็นตรงกัน
อย่างไรก็ตาม ทูดอร์ยืนยันว่าทีมของเขากำลังพัฒนาในทิศทางที่ถูกต้อง “เรามีหลายอย่างที่ดีขึ้นมากในช่วงเดือนที่ผ่านมา เกมรับของเรามั่นคงขึ้น และนักเตะเริ่มเข้าใจระบบมากขึ้น สิ่งเดียวที่ต้องปรับคือความเฉียบคมในจังหวะสุดท้าย ผมมั่นใจว่าเมื่อเราฝึกซ้อมและทำงานต่อไป เราจะกลับมาชนะได้แน่นอน”
ในระหว่างการให้สัมภาษณ์ เขายังพูดถึงความสัมพันธ์กับแฟนบอลยูเวนตุสว่า “ผมรู้ว่าแฟนบอลที่นี่รักทีมสุดหัวใจ บางครั้งอารมณ์ของพวกเขาก็แสดงออกมาแรง แต่นั่นคือสิ่งที่ผมชื่นชม เพราะมันแสดงให้เห็นว่าพวกเขาใส่ใจจริง ๆ ผมไม่ได้รู้สึกว่ามีความขัดแย้งอะไรระหว่างเรา ผมกับนักเตะต่างต้องการสิ่งเดียวกัน คือการทำให้ยูเวนตุสกลับมายิ่งใหญ่อีกครั้ง”
แฟนบอลยูเวนตุสเองต่างรู้ดีว่าทีมในเวลานี้อยู่ในช่วงเปลี่ยนผ่าน การกลับมาสู่ความสำเร็จเหมือนในยุคทองที่กวาดแชมป์ต่อเนื่องคงไม่ใช่เรื่องง่าย แต่สิ่งที่พวกเขาต้องการเห็นคือ “ความทุ่มเทและจิตวิญญาณของเบียงโคเนรี่” ซึ่งแม้ทูดอร์จะเป็นโค้ชที่เน้นแท็กติกและวินัย แต่หลายคนก็ยอมรับว่าเขาเป็นคนที่มีใจนักสู้และพยายามปลูกฝังสิ่งนั้นให้ลูกทีมทุกคน
ในขณะเดียวกัน นักวิเคราะห์จาก ufabet เว็บตรงทางเข้า เล่นได้ทุกที่ ให้ความเห็นว่า สถานการณ์ของยูเวนตุสในตอนนี้อยู่ในจุดที่ต้องเลือกทิศทางให้ชัดเจนว่าจะเดินหน้าเต็มกำลังเพื่อไล่ล่าความสำเร็จในระยะสั้น หรือจะยอมใช้เวลาเพื่อสร้างทีมให้แข็งแกร่งอย่างยั่งยืน “ทูดอร์อาจไม่ได้พาทีมเล่นฟุตบอลที่หวือหวา แต่สิ่งที่เขาทำคือการสร้างรากฐานให้ทีมกลับมามั่นคง ซึ่งในระยะยาวนี่อาจเป็นสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับสโมสร”
เกมที่เสมอกับมิลานแม้จะไม่เป็นไปตามความคาดหวังของแฟนบอล แต่ในมุมของโค้ชมันคือ “เกมที่มีค่า” เพราะทำให้เขาได้เห็นจุดอ่อนและจุดแข็งของทีมอย่างชัดเจน ทูดอร์ย้ำว่า “ผมมองเกมนี้ในแง่บวก เราเจอกับทีมที่ดีมาก แต่เรายังสามารถรักษาคลีนชีตได้ สิ่งนี้แสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งของทีม เราแค่ต้องหาวิธีทำประตูให้ได้มากกว่านี้”
นักข่าวชาวอิตาเลียนบางรายรายงานเพิ่มเติมว่า ภายในห้องแต่งตัวหลังเกม ทูดอร์ได้พูดกับลูกทีมด้วยน้ำเสียงสงบและให้กำลังใจว่า “อย่ากลัวเสียงจากภายนอก เพราะสิ่งเดียวที่สำคัญคือสิ่งที่เราทำในสนาม เรากำลังสร้างบางสิ่งที่ยิ่งใหญ่ และความสำเร็จต้องใช้เวลา” คำพูดนั้นได้รับเสียงปรบมือจากลูกทีมหลายคน ซึ่งแสดงให้เห็นว่าบรรยากาศภายในทีมยังคงแน่นแฟ้น
ในแง่ของสื่อและผู้เชี่ยวชาญ ทูดอร์ถือเป็นหนึ่งในโค้ชที่มีสไตล์การทำทีมที่ชัดเจน เขามักเน้นระเบียบวินัยและการเล่นเป็นระบบ ซึ่งเป็นสิ่งที่ยูเวนตุสต้องการในช่วงเวลานี้ หลังจากผ่านยุคที่ทีมเสียความมั่นคงจากการเปลี่ยนโค้ชหลายคนติดต่อกัน ความต่อเนื่องและความเข้าใจในระบบคือสิ่งที่เขากำลังพยายามสร้าง
บางเสียงวิจารณ์ว่าทูดอร์อาจต้องปรับแนวทางให้เปิดเกมรุกมากกว่านี้ เพราะยูเวนตุสคือสโมสรที่แฟนบอลคาดหวังให้เล่นฟุตบอลที่ดุดันและสนุก เขาตอบกลับอย่างตรงไปตรงมาว่า “ผมเข้าใจความต้องการของแฟน ๆ แต่ในบางช่วงเราต้องรู้จักเล่นให้ฉลาด ฟุตบอลไม่ใช่แค่เรื่องของการบุกอย่างเดียว ทีมที่ยิ่งใหญ่ต้องรู้ว่าจะป้องกันอย่างไรไม่ให้แพ้ก่อนจะคิดถึงชัยชนะ”
ในช่วงท้ายของการสัมภาษณ์ ทูดอร์ได้พูดถึงอนาคตของทีมว่า “เราจะไม่หยุดพัฒนา ผมเชื่อมั่นในนักเตะทุกคน พวกเขาทำงานหนักทุกวันเพื่อทีมนี้ ผมไม่ต้องการให้แฟนบอลจดจำเกมที่เราเสมอ แต่ให้จดจำว่าเรากำลังสร้างทีมที่ไม่ยอมแพ้”
ในฤดูกาลนี้ยูเวนตุสยังคงอยู่ในเส้นทางลุ้นพื้นที่ยุโรป และแม้จะยังไม่สามารถต่อกรกับจ่าฝูงได้อย่างเต็มตัว แต่การมีโค้ชที่มีวิสัยทัศน์ชัดเจนอย่างทูดอร์ถือเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี เขาย้ำเสมอว่าการกลับมาของยูเวนตุสต้องเริ่มจากความเชื่อมั่นในตัวเอง และนั่นคือสิ่งที่เขาพยายามปลูกฝังทั้งในสนามซ้อมและในเกมแข่งขันจริง
แฟนบอลจำนวนมากอาจยังไม่เห็นผลลัพธ์ทันตา แต่สิ่งที่เริ่มก่อตัวขึ้นภายใต้การนำของทูดอร์คือความมุ่งมั่นและความเป็นหนึ่งเดียว ซึ่งเป็นคุณค่าดั้งเดิมของ “เบียงโคเนรี่” ที่แท้จริง ไม่ว่าจะมีเสียงโห่หรือเสียงปรบมือดังขึ้นก็ตาม เขายังคงยืนยันว่า “สิ่งที่ผมได้ยินชัดที่สุดคือเสียงหัวใจของลูกทีมที่สู้ไม่ถอยในทุกนาที และสำหรับผม นั่นคือสิ่งที่สำคัญที่สุด”
นักวิเคราะห์จาก สมัคร ufabet ล่าสุด โปรโมชั่นจัดเต็ม ทิ้งท้ายว่า “ยูเวนตุสในยุคของอีกอร์ ทูดอร์อาจไม่ใช่ทีมที่หวือหวา แต่พวกเขากำลังสร้างตัวตนใหม่อย่างมั่นคง เสียงโห่ในวันนี้อาจกลายเป็นเสียงปรบมือในวันข้างหน้า หากทีมยังคงเดินหน้าด้วยความมุ่งมั่นเช่นนี้” — คำพูดนั้นอาจสรุปทุกอย่างได้ดีที่สุด เพราะสำหรับโค้ชอย่างทูดอร์แล้ว เสียงที่เขาเลือกจะได้ยิน ไม่ใช่เสียงตะโกนจากอัฒจันทร์ แต่คือเสียงแห่งศรัทธาภายในใจของนักเตะที่สู้เพื่อยูเวนตุสในทุกวินาที.